แผลกดทับหรือ BEDSORE เรื่องร้ายๆที่มนุษย์ล้อทุกคนไม่อยากเป็นแต่จะต้องเจอ ถ้ารู้ก่อนก็สามารถป้องกันได้
แผลกดทับหรือ Bedsore เป็นสิ่งที่คนพิการทางการเคลื่อนไหวซึ่งต้องอยู่บนเตียงนานๆ หรือต้องนั่งวีลแชร์นนานๆ จะต้องเผชิญกับมันแทบจะทุกคน บางคนเป็นแล้วเป็นอีก บางคนเป็นรุนแรงถึงขนาดต้องผ่าตัดนอนโรงพยาบาลกันหลายวัน โดยเฉพาะคนป่วยที่ขยับตัวเองไม่ได้และเข้ารักษาตัวใหม่ๆในโรงพยาบาล รายไหนรายนั้นเป็นกันทุกคน เพราะยังไม่มีความรู้เรื่องแผลกดทับแผลกดทับหรือ BEDSORE เรื่องที่มนุษย์ล้อทุกคนจะต้องเจอ แต่ป้องกันได้
แผลกดทับ พบได้บ่อยในผู้ป่วยที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เอง หรือ นอนบนเตียงคนไข้นานๆ ทำให้ผิวหนังบางส่วนถูกกดทับ อย่างต่อเนื่อง เป็นเวลานาน ทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปเลี้ยงผิวหนังที่ถูกกดทับได้อย่างสะดวก ทำให้ผิวหนังเป็นรอยแดง และมีการแตกทำลายของผิวหนัง จากระดับที่1 เรื่อยไปจนถึงระดับ4แผลกดทับมี 4 ระดับ
ระดับ1 เป็นรอยแดง การป้องกัน โดยป้องกันแรงเสียดทานแรงกดทับโดยใช้อุปกรณ์ที่ช่วยลดแรงกดทับ เช่น หมอน ที่นอนลม เจลโฟม และเปลี่ยนท่านอนทุก 2 ชั่วโมง ทาโลชั่นไม่ให้ผิวแห้ง ป้องกันผิวไม่ให้เปียกชื้น กระตุ้นให้มีการเคลื่อนไหว
ระดับ2 ผิวหนังส่วนบนหลุดไป ฉีกขาดเป็นแผลตื้น มีรอยแดงบริเวณเนื้อเยื่อรอบๆ มีอาการปวด บวม แดง ร้อน มีสิ่งขับหลั่งจากแผลปริมาณเล็กน้อยหรือปานกลาง การดูแลคล้ายระดับ1 การป้องกันไม่ให้เป็นแผลเพิ่ม เช็ดรอบๆด้วย Alcohol 70 % ใช้น้ำเกลือ (sterile isotonic sodium chloride solution) ทำความสะอาดแผล ใช้ silver sulfa diazineทาแผล ปิดด้วยผ้าก็อส ใช้วาสลินทาผิวหนังรอบแผล เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเปียกแฉะ หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยา Povidine เช็ดแผล
ระดับ3 มีการทำลายผิวถึงชั้นไขมัน มีรอยแผลลึกเป็นหลุมโพรง มีสิ่งขับหลั่งออกจากแผลมาก อาจมีกลิ่นเหม็น การรักษาควรปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์
ระดับ4 มีการทำลายถึงเส้นเอ็น กล้ามเนื้อ กระดูก แผลเป็นโพรง มีสิ่งขับหลั่งจากแผลมาก มีกลิ่นมาก การรักษาควรปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์
สาเหตุของการเกิดแผลกดทับ
1. การกดทับ
2. ภาวะทุพโภชนาการ
3. การถูกจำกัดการเคลื่อนไหว การนอนนาน ๆ โดยไม่เคลื่อนไหว
4. การติดเชื้อ
5. การทำงานของระบบประสาทความรู้สึกเสื่อม ( Sensory Loss)
6. การเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง
โดยปกติแล้วเส้นเลือดจะมีแรงดันของหลอดเลือดฝอย เหมือนท่อน้ำประปา ถ้ามีอะไรพับไว้น้ำก็จะไหลได้เพียงเล็กน้อย ลักษณะเดียวกันกับเส้นเลือดเมื่อถูกทับจนเลือดไม่สามารถไหลมาเลี้ยงกล้ามเนื้อได้จะทำให้บริเวณที่ถูกกดทับมีการตายของเนื้อเยื่อ ซึ่งแรงกดมากกว่า 20 มิลลิเมตรปรอท เป็นเวลา 2-4 ชม.ทำให้เกิดแผลกดทับ ในบริเวณที่มีกล้ามเนื้อมาก จะทนต่อแรงกดทับได้ดี กรณีของแรงกดที่มากแม้เพียงระยะเวลาสั้นๆ ก็ทำให้เกิดอันตรายต่อเนื้อเยื่อได้เท่ากับแรงกดบ่อยๆ แต่เป็นระยะเวลานาน
ขณะที่มีการนอนบนเตียงหรือนั่งบนรถเข็น ก็จะต้องมีการเคลื่อนตัวของคนไข้ ไม่ว่าจะเคลื่อนตัวเพื่อเปลี่ยนผ้าปูที่นอน หรือทำความสะอาด เมื่อมีการถ่ายออกมาไม่ว่าจะเป็น อุจจาระ ปัสสาวะ หรือแม้แต่เรื่องการอาบน้ำ การลุกจากรถเข็นมานั่งบนเตียง เป็นธรรมดาที่จะต้องเกิดการเสียดสีกับที่นอนหรือที่นั่ง ซึ่งการเสียดสี หรือการไถไปกับพื้น (ที่นอน, รถเข็น ฯลฯ) การไถหรือถู ทำให้เกิดแรงกระทำโดยตรงต่อชั้นหนังกำพร้า จะทำให้เกิดการปริแตกของเนื้อเยื่อได้เร็วขึ้น
บริเวณที่อาจเกิดแผลกดทับ
1. ท่านอนหงาย บริเวณที่เกิดคือ ท้ายทอย ใบหู หลังส่วนบน ก้นกบ ข้อศอก ส้นเท้า
2. ท่านอนคว่ำ บริเวณที่เกิดคือ ใบหูและแก้ม หน้าอกและใต้ราวนม หน้าท้อง หัวไหล่ สันกระดูกตะโพก หัวเข่าปลายเท้า
3. ท่านอนตะแคง บริเวณที่เกิดคือ ศีรษะด้านข้าง หัวไหล่ กระดูกก้น ปุ่มกระดูกต้นขา ฝีเย็บ หัวเข่าด้านหน้า ตาตุ่ม
4. ท่านั่งนานๆ บริเวณที่เกิดคือ ก้นกบ ปุ่มกระดูกก้น หัวเข่าด้านหนัง กระดูกสะบัก เท้า ข้อเท้าด้านนอก
การเกิดแผลกดทับจะส่งผลให้ผู้ป่วยทุกข์ทรมาน เจ็บ ปวดแผล เพิ่มความยุ่งยากในการดูแลรักษามากขึ้น จึงควรให้ความสำคัญต่อการป้องกัน ไม่ให้เกิดแผลกดทับ และการลุกลามของแผลกดทับ
การดูแลผู้ป่วยไม่ให้เกิดแผลกดทับ
-จัดให้ผู้ป่วยนอน นั่งบนที่นอนหรือที่นั่งนุ่มๆ เช่น ที่นอนลม แผ่นรองนั่งแบบเจล
-ใช้หมอนนุ่มๆรองตามปุ่มกระดูก
-เปลี่ยนท่านอนอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง เพื่อลดการกดทับบริเวณผิวหนังและปุ่มกระดูก
-ดูแลความสะอาดผิวหนังและป้องกันไม่ให้เปียกชื้น
-คอยตรวจดูสภาพผิวหนังทุกครั้งเมื่อพริกตะแคงตัว
-หากพบรอยแดงหรือผิวหนังถลอกด้านใดควรหลีกเลี่ยงการนอนทับผิวหนังบริเวณนั้น
-เมื่อมีแผลต้องรีบรักษาให้หายโดยเร็ว
-หากพบแผลลุกลามควรพบแพทย์โดยด่วน
ทีนี้ก็เป็นหน้าที่ของผู้ดูแลและคนพิการต้องหมั่นสำรวจเป็นประจำ เพื่อป้องกันไม่ให้มันเกิด รู้แล้วบอกต่อๆกันไปนะครับ
แผลกดทับหรือ BEDSORE เรื่องที่มนุษย์ล้อทุกคนจะต้องเจอ แต่ป้องกันได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น