24 มิ.ย. 2556

ประสบการณ์วิกฤตชีวิตรอด ห้องไอซียู ICU ที่ไม่รู้ลืม

ขอถ่ายทอดประสบการณ์จริง วิกฤตชีวิตที่รอดจากห้องไอซียู ICU ที่ไม่รู้ลืม

คุณคิดว่าร่างกายคุณยังปกติแข็งแรง ไม่เจ็บไม่ป่วย ทำงานทำกิจวัตรประจำวันเป็นปกติ ไม่แน่นะสักวันคุณอาจต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วนแล้วต้องอยู่ในห้องไอซียู ICU อาจจากสาเหตุของการเกิดุบัติเหตุทางท้องถนนที่จะเกิดเมื่อไหร่ก็ได้ อาจเกิดจากโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดขึ้นฉับพลันโดยไม่ระวังตัวถ้าไม่หมั่นตรวจเช็คสุขภาพ
ผมขอถ่ายทอดประสบการณ์ที่ได้ผ่านห้องไอซียู ICU แบบเฉียดตายมาแล้ว ซึ่งตนเองก็ไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตนี้จะได้เข้าไปสัมผัสกับความทรมานในห้องไอซียู ICU

ประสบการณ์วิกฤตชีวิตรอด ห้องไอซียู ICU ที่ไม่รู้ลืม

ผมเป็นคนพิการรุนแรงระดับ5 จัดเป็นความพิการระดับสูงสุดที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ในการทำกิจวัตรประจำวันหลายอย่าง จำเป็นต้องมีผู้ช่วยเหลือคนพิการประจำตัว ความพิการเกิดจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ทุกเซี่ยววินาทีสามารถเกิดขึ้นกับคุณได้ถ้าไม่ระวังตัว เมาไม่ขับ ง่วงไม่ขับ หรือไม่ใส่อุปกรณ์ป้องกันตัวเช่นหมวกกันน็อค เข็มขัดนิรภัย ก็มีโอกาสที่จะกลายมาเป็นผู้ทุพพลภาพอย่างผม แต่เหตุการณ์แรกนี้ผมแค่เข้ารับการผ่าตัดตัดเพื่อดามกระดูกต้นคอข้อที่หัก หลังผ่าก็มาอยู่หอผู้ป่วยธรรมดา ยังไม่ได้เข้าห้องไอซียู ICU
สิบกว่าปีแล้วผมก็ใช้ชีวิตเกือบเท่ากับคนปกติ ออกไปไหนมาไหนได้โดยต้องมีผู้ช่วยเหลือติดตามไปด้วย หมอจะนัดตรวจสุขภาพสองปีต่อครั้ง ก็ไม่เห็นมีสิ่งผิดปกติ
15 มีนาคม 2556 ตอนหัวค่ำหลังอาหารมื้อเย็น ผมรู้สึกขนลุก เป็นอาการที่จะเกิดค่อนข้างบ่อยสำหรับผู้ทุพพลภาพหรือคนพิการที่เกิดจากเส้นประสาทกระดูกไขสันหลังกระทบกระเทือน ทำให้ไร้ความรู้สึกตรงท่อนล่างของร่างกายจนไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายได้ ต้องใช้ถุงรองรับปัสสาวะ อาการขนลุกจะเตือนว่าสายปัสสาวะ(สายฉี่)อาจจะตัน หรือเตือนว่าเรากำลังถ่ายอุจจาระ หรือไม่ก็เตือนว่าตอนนี้เรากำลังปวดท้องนะ ผมให้ผู้ช่วยฯสำรวจแล้วไม่มีอุจจาระ ก็ทำการขยี้สายปัสสาวะ พับสายแล้วคลายเพื่อดูดเอาตะกอนที่อาจจะทำให้สายฉี่อุดตัน แต่ก็ไม่มีตะกอนออกมา ฉี่ก็ไหลปกติ สรุปว่าขนลุกคือปวดท้องแน่ นานเข้าท้องก็บวมขึ้นแข็งขึ้น ผมจึงกินยาขับลมในท้อง กินยาธาตุน้ำแดงก็ไม่หาย ยาธาตุน้ำขาวก็ไม่ดีขึ้น ยาเม็ดขับลมก็ช่วยไม่ได้ ไม่เรอไม่ตดไม่ผายลม ขนลุกนอนไม่หลับทั้งคืน ตื่นเช้าจึงรีบไปหาหมอที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด

จำต้องไปโรงพยาบาลแล้ว
16 มีนาคม 2556 ดั้นตรงกับวันเสาร์ เลยได้รับบริการช้าหน่อย ทั้งตรวจทั้งเอกซเรย์ หมอก็น้อยเพราะเป็นวันหยุด มารู้ผลตอนเย็น หมอบอกเป็นโรคลำไส้ใหญ่บิดหมุน อาจจะต้องผ่าตัด ไม่งั้นลำไส้ใหญ่อาจจะบวมจนแตก โอพระเจ้า!!! มันขนาดนั้นเชียวเหรอ โรคลำไส้ใหญ่บิดหมุน (Sigmoid Volvulus) เกิดมาก็พึ่งจะเคยได้ยินนี้แหละ ชื่อก็แปลกๆ คนดีๆไปไหนมาไหนก็ไม่เห็นมีอาการเตือนว่าจะเป็นอะไร ปวดท้องวันเดียวไม่เรอไม่ผายลมถึงกับต้องผ่าตัด กูไม่อยากจะเชื่อเลย ต้องนอนทรมารไปอีกคืน รอคิวหมอ รอคิวห้องผ่าตัด ท้องก็บวมขึ้นๆ แข็งขึ้นๆ ยังกะผู้หญิงท้องแก่
17 มีนาคม 2556 วันอาทิตย์ ลำไส้ใหญ่ส่วนที่บิดหมุนไม่มีเลือดไปเลี้ยง ทำให้สำไส้ใหญ่ส่วนนั้นตาย ผมเริ่มไม่รู้สึกตัวแล้วต้องให้ออกซิเจน เวลาประมาณสองทุ่ม ได้เข้าห้องผ่าตัด เสร็จราวเกือบสี่ทุ่ม มารู้สึกตัวอีกทีก็สายๆวันจันทร์ที่ 18 มีนาคม อยู่ในห้องไอซียูICU พูดก็ไม่ได้เพราะมีท่อช่วยหายใจอยู่ในปาก อีกทั้งสายระโยงระยางเต็มตัวไปหมด สายน้ำเกลือ สายให้เลือด สายให้ยา สายให้อาหารเหลวทางจมูก สายตรวจคลื่นหัวใจ ท่อช่วยหายใจทางปาก อึดอัดมากเพราะท่อช่วยหายใจมันยาวผ่านลงถึงกล่องเสียง จึงไม่สามารถเปร่งเสียงพูดได้ การสื่อสารลำบากมากเพราะผมบังคับนิ้วมือไม่ได้ตั้งแต่ประสบอุบัติเหตุจนกลายเป็นคนทุพพลภาพถาวร จะเขียนข้อความเพื่อสื่อสารเลยทำไม่ได้ อึดอัดเป็นสองเท่าของคนธรรมดาเลย

ช่วงเวลาของความทรมานมากๆมาเยือนแล้ว
บรรยากาศในห้องไอซียูICUราวกับนรก มีทั้งหมด8เตียง เกือบจะทุกวันจะมีเตียงที่ต้องกลับบ้านเก่า ภาพที่ปรากฏรอบๆเตียงผมมันมีแต่ความหดหู่ บางคนก็ร้องไห้เมื่อมาเยี่ยมญาติของตนที่ยังนอนไม่รู้สึกตัว บางคนน้ำตาไหลเมื่อเจอภาพที่พยาบาลคลุมผ้าขาวเตียงที่สู้กับความเจ็บปวดของโรคร้ายไม่ไหวจนสัญญานชีพบนจอหยุดเต้น
มาถึงตัวเราบ้าง วันหนึ่งๆต้องรับอาหารเหลวผ่านสายยางลงมาทางรูจมูกไปยังกระเพาะทุกๆ4ชั่วโมง ต้องดูดเสมหะทุก4ชั่วโมงเหมือนกัน แต่เป็นทุกสี่ชั่วโมงที่ไม่อยากให้มาถึงเลยเพราะการดูดเสมหะต้องหย่อนท่อพลาสติกหรือสายยางเล็กๆผ่านรูท่อช่วยหายใจที่คาไว้ในปาก แล้วทุกครั้งที่แหย่ลงไปมันถึงลำคอ ทั้งเจ็บและทรมานมาก พยาบาลที่ทำหน้าที่นี้ควรจะเป็นผู้ทีชำนาญด้านนี้ แต่การปฏิบัติจริงนั้นพยาบาลจะหมุนเวียนไม่ใช่คนเดิม เจอคนชำนาญบ้างเจอประเภทแหย่ท่อลงคอยังกะทิ่มเข็มลงคอก็หลายคน บางคู่คุยกันไปไม่บอกคนไข้เลยว่าจะมาทำอะไร คนนึงก็สอดท่อดูดเสมหะทิ่มลง อีกคนก็สลับบีบเครื่องช่วยหายใจแบบมือบีบ(Embu Bag) บีบแบบไม่รอจังหวะหายใจเข้าหายใจออกของคนป่วยเลย คนบีบEmbu Bagส่วนใหญ่จะเป็นแค่ผู้ช่วยพยาบาลที่ไม่มีความชำนาญ ทั้งๆที่เรื่องดูดเสมหะเป็นขั้นตอนที่สำคัญสำหรับผู้ป่วยหนักที่ต้องใช้ท่อช่วยหายใจ ทำเป็นเล่นๆไม่ได้ คนป่วยก็พูดไม่ได้เพราะท่อช่วยหายใจอยู่ในปาก ผมก็ได้แต่แสดงอาการเจ็บผ่านสีหน้าตอนถูกสายทิ่มลงคอ บางครั้งผมถึงกับปฏิเสธส่ายหัวว่าไม่ดูดช่วงต้องเจอกับพยาบาลที่ไม่ชำนาญ เขาก็บอกไม่ได้ต้องดูด มาค้นข้อมูลทีหลังจึงรู้ว่าคนที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจจะมีเสมหะมาก เพื่อไม่ให้เกิดการสำลักจึงต้องดูดเสมหะทุก4ชั่วโมง

คลิกอ่านต่อตอน2 แล้วจะรู้สถานการณ์ที่แสนทรมานในห้องไอซียู
ประสบการณ์วิกฤตชีวิตรอด ห้องไอซียู ICU ที่ไม่รู้ลืม

ไม่มีความคิดเห็น: